วุ่นวายทั้งปี เมื่อใกล้จะสิ้นปี ก็ถึงเวลาบอกลาปี 2065 ได้เวลาไปวัด จะสายหมู สายบุญ หรืออะไรก็ตาม สะสมแต้มบุญกันหน่อย ทิ้งเรื่องแย่ๆ ไว้ข้างหลัง แล้วเตรียมหาที่พักต้อนรับปีใหม่ ด้วยความหวังว่าปี 2066 จะนำเรื่องราวดีๆ มาสู่เรา ยังไม่สาย รีบรวบรวม 9 วัดดังกรุงเทพฯ เสริมสิริมงคล ปี 2566 รับรองว่าปีใหม่นี้เฮงแน่นอน .
9 วัดดังกรุงเทพฯ ความหมายดี เสริมมงคลรับปี 2566
หนึ่งในวิธีสู่ความสำเร็จขั้นพื้นฐานและง่ายที่สุด คือการทำบุญอุทิศส่วนบุญให้กรรม อโหสิกรรม หมั่นสั่งสมบุญให้กรรมเบาบาง ตักบาตรตอนเช้า ถวายสังฆทาน ถวายสิ่งของจำเป็น ช่วยชีวิตโค ตักบาตร ให้อาหารสัตว์ ปล่อยนก ปล่อยปลาลงแหล่งน้ำได้บุญหลายทาง สิ่งแวดล้อม. เมื่อหมดบุญก็อยากจะลืมกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้ เทวดาประจำตัวและกรรมและขอให้เปิดประตูโชคให้พบทางที่ดีขึ้นสามารถสั่งสมบุญอย่างสม่ำเสมอเพื่อเพิ่มพูนโชค หากใครไม่สะดวกทำบุญเป็นประจำ ก็สามารถสวดมนต์ ไหว้พระ และสรงน้ำพระได้เช่นกัน มาดูวัดที่น่าทำบุญ 9 วัดดังกรุงเทพฯ วัดมงคลกันจ้า
วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร, กรุงเทพฯ
“ขอให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองทุกวันคืน” ควรไปกราบ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือที่เรียกกันว่า วัดแจ้ง เป็นวัดเก่าแก่สมัยอยุธยาและเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ดังนั้นวัดอรุณจึงเป็นวัดที่มีผู้คนเคารพนับถือมากที่สุดวัดหนึ่ง ลักษณะเด่นของวัดคือยักษ์กายสีขาวและยักษ์กายสีเขียว ที่ประตูทางเข้าพระอุโบสถบนยอดมงกุฎมียักษ์เฝ้าประตูซึ่งตามความเชื่อโบราณยักษ์ทั้งสองตนนี้คอยปกปักษ์รักษาสิ่งศักดิ์สิทธิ์และมีค่าที่อยู่ภายใน อีกประการหนึ่งคือความงดงามของพระปรางค์องค์ใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เจดีย์ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบหลากสี โถและเปลือกหอยเบญจรงค์เรียกได้ว่าเป็นความงามที่เคียงคู่มากับสายน้ำเจ้าพระยา
วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร, กรุงเทพฯ
“ไหว้พระวัดสุทธามหาปราสาท” วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดสุทัศน์ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ประเภทของพระราชวังและวัดรัชกาลที่ 8 ที่ตั้งอยู่ในพระนครในมีเอกลักษณ์ตรงด้านหน้าวัดที่มีชิงช้าขนาดใหญ่ ใครมาวัดสุทัศน์ควรไปไหว้พระศรีศากยมุนี ภายในพระอุโบสถมีพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่และเยี่ยมชมพระอุโบสถที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ภายในพระอุโบสถมีพระประธานคือ พระพุทธไตรโลกเชษฐ์ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย และพระสงฆ์ 80 รูปนั่งพนมมือสดับพระธรรมเทศนาต่อหน้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ว่าจะเป็นรถจีน ตุ๊กตาจีน หรือสัตว์หิมพานต์ และตามตำนานจีนหลังจากที่สัตว์ไหว้พระพุทธรูปแล้วเราสามารถเดินชมความงามรอบๆวัดได้
วัดชนะสงคราม ราชวรมหาวิหาร, กรุงเทพฯ
วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร เป็นวัดที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยา เดิมชื่อวัดแทงปูเพื่อระลึกถึงสมเด็จพระมหาสุรสิงหนาทก่อนที่จะย้ายไปอยู่ที่วัดชนะสงครามซึ่งปราบพม่าได้ทั้ง 3 ศึก จึงเชื่อกันว่าหากใครมีอุปสรรคและต้องการขจัดปัญหาให้แวะมาไหว้พระที่วัดชนะสงคราม มาเคารพอธิษฐานขอชัยชนะเหนืออุปสรรคทั้งปวง และประดิษฐาน พระพุทธนรสีห์ไตรโลกเชษฐ์ หรือ หลวงพ่อปู่ มีพระพุทธรูปล้อมรอบองค์พระประธานจำนวน 16 องค์ มีพลับพลาที่ประดิษฐานพระบรมรูปของสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ปางที่ ๗ พระพุทธเจ้าทรงมีชัยชนะเหนืออริราชศัตรู 7 พระองค์ รวมทั้งด้านหน้าประตูทางเข้าพระอุโบสถ ใครมาแล้วอย่าลืมไปกราบสักการะ
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร, กรุงเทพฯ
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดโพธิ์ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี และเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 1 ในอดีตวัดโพธิ์เป็นที่รวบรวมตำราและจารึกจากหลายสาขาวิชา เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ของประชาชน วัดโพธิ์ จึงได้ชื่อว่าเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทย ที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอีกด้วย นอกจากนี้วัดโพธิ์ยังถือเป็นวัดที่มีเจดีย์มากที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย พระมหาเจดีย์ศรีพระราม และพระนอนที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ วัดโพธิ์มีเอกลักษณ์อีกอย่างคือ เป็นรูปนักพรตเดินคดเคี้ยวทั้ง 24 อิริยาบถ ปัจจุบันวัดโพธิ์ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนา ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก และเชื่อว่า “มาขอพรให้ชีวิตร่มเย็นเป็นร่มโพธิร่มไทร”
วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ราชวรวิหาร, กรุงเทพฯ
วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร มาไหว้พระ “ขอพรให้งานสำเร็จ” วัดเบญจมบพิตร หมายถึงวัดของเจ้านายทั้ง 5 พระองค์ที่บูรณปฏิสังขรณ์วัดนี้มี สถาปัตยกรรม ที่สวยงามและโดดเด่น หนึ่งในวัดที่มีรูปแบบดีที่สุดของสถาปัตยกรรมไทยโบราณ ประดับด้วยหินอ่อนนำเข้าจากอิตาลี มีชื่อเรียกทั่วไปว่า “วัดหินอ่อน” ภายในพระอุโบสถจำลองพระพุทธชินราชจำลองมาจากเมืองพิษณุโลก บริเวณระเบียงคตด้านหลังพระอุโบสถมีพระพุทธรูปปางต่างๆ จำนวน 52 องค์ ตั้งใจมาชมสถาปัตยกรรมที่สวยงามของวัด
วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร, กรุงเทพฯ
ใครมา วัดสระเกศ เชื่อว่า “ช่วยเสริมความคิดเป็นมงคล” วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เดิมชื่อ วัดสระแก เป็นวัดโบราณตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ต่อมารัชกาลที่ 1 ทรงปฏิสังขรณ์และพระราชทานนามใหม่ว่า วัดสระเกศ เป็นพระอารามหลวงชั้นรอง พระประธานในพระอุโบสถได้อัญเชิญมาจากวัดดุสิตจึงเรียกว่า หลวงพ่อดุสิต เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย นอกจากนี้สัญลักษณ์ของวัดคือพระบรรพตหรือภูเขาทอง ตัวอย่างคือเจดีย์บนภูเขา บนยอดภูเขาทองเป็นที่ตั้งของเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ด้านบนสุดมีหลวงพ่อดำ พระพุทธรูปที่อยู่คู่กับภูเขาทองมาช้านาน นอกจากนี้ ความสำคัญของภูเขาทองก็คืองานลอยกระทงที่จะเปิดให้บูชาพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งถือได้ว่าเป็นศิริมงคลและส่งเสริมความเจริญของบ้านเมือง
วัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร, กรุงเทพฯ
วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร หรือ วัดระฆัง เป็นวัดเก่าแก่อีกวัดหนึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เดิมเคยเป็นที่จำพรรษาของ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี (โต พรหมรังษี) ซึ่งเป็นพระเถระที่เคารพนับถืออย่างสูงในประเทศไทยซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดในสมัยรัชกาลที่ 4 และ 5 ด้วย พระไตรปิฎกสภา. ซึ่งอัญเชิญมาจากจังหวัดนครศรีธรรมราช ด้วย สำหรับที่มาของวัดระฆังนั้นมาจากการขุดแต่งระฆังในสมัยรัชกาลที่ 1 และโปรดเกล้าฯให้นำระฆังใบนี้ไปไว้ที่วัดพระแก้ว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างหอระฆังพร้อมกับสร้าง ระฆัง 5 ใบมาแทนวัด นี่คือที่มาของระฆัง อีกทั้งยังมีความเชื่อว่าใครมาไหว้พระวัดจันทร์แล้วจะทำให้ “มีคนเลื่อมใส มีชื่อเสียงตลอดปี”
วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร, กรุงเทพฯ
วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ที่ใครมาก็ขอให้ “เดินทางโดยสวัสดิภาพ หาเพื่อนที่ดี รวมทั้งพระประธาน คือ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือ หลวงพ่อโต สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยขนาดใหญ่ หลวงพ่อโตเป็นที่เคารพนับถือของชาวจีนอย่างมาก จนได้ชื่อว่า ซำปอฮุดกง หรือ ซำปอกง ตามแบบจีน นอกจากนี้ เพื่อเป็นเกียรติเป็นสถานที่เก็บพระไตรปิฎกในสมัยรัชกาลที่ 4 และมีหอมนาเทียนธรรมอยู่หน้าวัด ยังเป็นระฆังที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอีกด้วย
วัดบวรนิเวศวิหาร, กรุงเทพฯ
วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี วัดดังกรุงเทพฯ ชนิดราชวรวิหาร ที่นี่เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชทั้ง 4 พระองค์ และเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย เป็นสถานศึกษาสงฆ์แห่งแรกของประเทศและยังเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 6 และ 9 สถาปัตยกรรม ของพระอุโบสถเป็นการผสมผสานระหว่างหลายวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นไทย จีน หรือยุโรป วัดบวรนิเวศวิหารมีชื่อเสียงด้านความงามทั้งสถาปัตยกรรมและจิตรกรรมฝาผนัง พระอุโบสถมีพระประธาน 2 องค์ที่มีความสำคัญและเก่าแก่มาแต่โบราณ คือ พระพุทธสุวรรณเขต และ พระพุทธชินสีห์ ตามความเชื่อคนไทยนิยมมาไหว้พระบวรนิเวศ “พบเจอแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต”